Thu May 08
สรรพสามิต ขึ้นภาษีน้ำมัน 1 บ. ยันไม่กระทบราคาขายปลีก หวังช่วยจัดเก็บรายได้เพิ่ม
2025-05-08
IDOPRESS
สรรพสามิต ขึ้นภาษีน้ำมัน 1 บาท หวังช่วยเรื่องจัดเก็บรายได้ แต่ยันไม่กระทบราคาขายปลีก ย้ำเป็นการบริหารจัดการตามราคาน้ำมันขึ้นลง
รายงานข่าวจากกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ตามที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา มีการประกาศกฎกระทรวง ซึ่งมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมันใหม่ เริ่มตั้งแต่ 7 พ.ค. 68 นั้น จะไม่กระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล เบนซิน และแก๊สโซฮอล์แก่พี่น้องประชาชน ซึ่งการขึ้นภาษีเป็นเพียงปรับแนวบริหารจัดการน้ำมัน การจัดเก็บภาษีรายได้รัฐ และเงินของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้เหมาะสม ตามกลไกราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ลดลง
“การขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันครั้งนี้ เป็นไปตามมติ ครม.เมื่อ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงยังได้ผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติแล้ว ซึ่งถือเป็นหลักการบริหารจัดการ เพราะก่อนหน้านี้ช่วงที่ราคาน้ำมันแพง เกิน 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล คลังก็เคยลดภาษีน้ำมันลงช่วยลดค่าครองชีพ และแบ่งเบาภาระเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เคยติดลบเกินแสนล้าน แต่มาวันนี้เมื่อราคาน้ำมันโลก และภาระหนี้กองทุนน้ำมันลดลงแล้ว จึงมีการขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน แต่จะไม่กระทบต่อราคาขายปลีกแน่นอน เนื่องจากได้ลดสัดส่วนเงินนำส่งกองทุนเช่นกัน”
ทั้งนี้ การขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันครั้งนี้ ได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยทุกประเภทลิตรละ 1 บาท แต่ขณะเดียวกันก็ลดเงินนำส่งกองทุนน้ำมันลง 20-70 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งจะทำให้สรรพสามิตมีรายได้ภาษีเพิ่มเดือนละ 2,900 ล้านบาท แยกเป็นจากดีเซล 2,000 ล้านบาท และเบนซิน 900 ล้านบาท โดยจะคงภาษีแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าราคาน้ำมันจะมีการเปลี่ยนแปลงแบบมีนัยสำคัญ
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า การขึ้นภาษีน้ำมันสรรพสามิตลิตรละ 1 บาท จะทำให้มีรายได้เพิ่มเดือนละประมาณ 2,900 ล้านบาท ช่วยให้สถานการณ์การจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตดีขึ้น หลังการจัดเก็บภาษีรถยนต์ตามมาตรการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ทำให้กรมมีรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการคลังรายงานว่า ช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 กรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าประมาณการ 21,321 ล้านบาท หรือต่ำเป้าไป 7.4%